JUNO SPACECRAFT: A SPACECRAFT TO UNLOCK THE SECRET OF JUPITER
Published by HEiSENBERG - Walter White,
ufabet present : ยานอวกาศจูโน(Juno spacecraft) ถูกส่งออกจากโลกไปเมื่อ 5 เดือนสิงหาคม 2011 แล้วก็กำลังจะเดินทางไปถึงดาวพฤหัสฯกลางปีนี้ ในวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม 2016 โดยใช้เวลาเดินทางนานแทบ 5 ปี
ยานอวกาศจูโน เป็นยานแบบorbiter ซึ่งจะโคจรไปบริเวณดาวพฤหัสฯ 33 รอบภายในช่วงระยะเวลาโดยประมาณ 1 ปี เพื่อศึกษาเล่าเรียนดาวพฤหัส มันเป็นยานอวกาศลำลำดับที่สองที่มนุษย์ส่งไปหมุนรอบดาวพฤหัสฯ ก่อนหน้าที่ผ่านมายานกาลิเลโอได้หมุนรอบดาวพฤหัสฯอยู่นานถึง 8ปี ตั้งแต่ปี 1995-2003 ส่วนยานลำอื่นๆเพียงแต่บินเฉียดฉิวใกล้แล้วผ่านเลยไป
เป้าหมายหลักๆของยานลำนี้เป็น เรียนรู้ดาวพฤหัสฯเพื่อทำความเข้าใจการเกิดรวมทั้งพัฒนาการของดาวพระเคราะห์ดวงนี้ ,เล่าเรียนใต้ชั้นก้อนเมฆที่ปกคลุมดาวพฤหัสฯซึ่งนักดาราศาสตร์มั่นใจว่ามีข้อมูลที่เชื่อมโยงถึงการเกิดระบบสุริยะได้ ยิ่งกว่านั้นความรู้ความเข้าใจถึงดาวพฤหัสฯให้รอบคอบจะช่วยทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถรู้เรื่องดาวพระเคราะห์นอกระบบสุริยะที่มีลักษณะเหมือนดาวพฤหัสฯซึ่งนักดาราศาสตร์ศึกษาและทำการค้นพบไปแล้วล้นหลามได้ด้วย
ยานลำนี้มีวัสดุอุปกรณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับภารกิจ ซึ่งจะเรียนแก่นดาวพระเคราะห์ที่เป็นของแข็ง,ทำแผนที่สนามไฟฟ้าของดาวพฤหัสฯ,วัดส่วนประกอบของชั้นบรรยากาศ และก็ดูแสงสว่างออโรราบนดาวพระเคราะห์ดวงนี้
ชื่อ จูโน ufabet ของยานลำนี้มาจากชื่อเทวดาสตรีในตำนานภาษากรีกโรมัน เมื่อเทวดาจูปิเตอร์ดึงผ้าสำหรับคลุมซึ่งเป็นก้อนเมฆมาปกปิดบางอย่าง แม้กระนั้นเทวดาจูโนผู้เป็นเมียดึงผ้านั้นออกรวมทั้งเผยความเป็นจริงของเทวดาจูปิเตอร์ได้
ยานอวกาศที่ตรวจระบบสุริยะชั้นนอกอย่างดาวพฤหัสฯธรรมดาแล้วจะใช้แหล่งพลังงานเป็นกัมมันตรังสีที่นำไปกับยาน ด้วยเหตุว่าที่ระยะทางไกลมากๆแดดจะอ่อนลงมากจนกระทั่งโซลาร์เซลล์ไม่อาจจะใช้การได้อย่างมีคุณภาพ แต่ว่ายานอวกาศจูโนใช้โซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่สามแผงซึ่งใหญ่ที่สุดสำหรับภารกิจตรวจสอบดาวพระเคราะห์ ในขณะนี้ยานอวกาศจูโนทำสถิติเป็นยานที่ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ที่เดินทางออกจากโลกไปได้ไกลที่สุดแล้ว
โซลาร์เซลล์นั้นมีจุดเด่นหลายแบบ อย่างที่เด่นชัดเป็น กัมมันตรังสีนั้นเป็นธาตุหายากราค้างแพง และก็แม้จรวดที่ส่งยานอวกาศไปกับกัมมันตรังสีเกิดอุบัติเหตุระเบิดขึ้นมาบางทีอาจมีการแปดเปื้อนในชั้นบรรยากาศโลกพวกเราได้
หากภารกิจยานอวกาศจูโนเสร็จราบรื่นก็จะเป็นการกรุยให้กับยานอวกาศตรวจพระจันทร์ไอโอของดาวพฤหัสฯในอนาคต
วงโคจรของยานจูโน
ยานอวกาศจูโนจะหมุนรอบดาวพฤหัสฯแบบ Polar orbit เป็นรูปวงรีที่มีความรีสูงมากมาย (รูป 1)ซึ่งPolar orbit ซึ่งก็คือวิถีโคจรที่ผ่านขั้วเหนือรวมทั้งขั้วใต้ของดาวพระเคราะห์วัตถุประสงค์
หนึ่งครบรอบการโคจรใช้เวลาราว 14 วัน รวมทั้งมันจะหมุนรอบดาวพฤหัสฯทั้งผอง 37 รอบเพื่อเก็บข้อมูลกระทั่งสำเร็จภารกิจ
เหตุที่จะต้องโคจรด้วยเส้นทางโคจรรูปแบบนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ยานอวกาศสัมผัสกับสนามไฟฟ้าอันเข้มข้นของดาวพฤหัสฯในรอบๆที่เรียกว่าradiation belts ufabet นานเกินความจำเป็นจนถึงทำให้วัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆและโซลาร์เซลล์กำเนิดความเสื่อมโทรม (รูป 2เป็นradiation belts ของดาวพฤหัสฯที่มีการเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อย)
3.กล้องถ่ายรูปรังสีอินฟาเรดสำหรับถ่ายออโรราดาวพฤหัสฯ ( Jovian Infrared Auroral Mapper) ใช้ตรวจหาคลื่นในบริเวณรังสีอินฟาเรด (2-5 ไมครอน) ซึ่งออกมาจากชั้นบรรยากาศความลึก 50-70 กม.ของดาวพฤหัสฯ แล้วก็ตรวจหาแสงสว่างออโรราที่ความยาวคลื่น 3.4 ไมครอนด้วย
รังสีอินฟราเรดที่แผ่ขยายออกมาจากชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสฯจะมีผลให้นักวิทยาศาสตร์พินิจพิจารณาการไหลของก้อนเมฆ รวมถึงมีเธน,ละอองน้ำ,แอมโมเนียแล้วก็สารฟอสฟีน(Phosphine) ใต้ผิวดาวพฤหัสฯได้
นอกเหนือจากนี้ยังมีเครื่องจรวจจับสนามไฟฟ้า,เครื่องตวงแรงโน้มถ่วง,เครื่องตรวจค้นคลื่นวิทยุและก็พลาสมา, เครื่องตรวจหารังสีอัลยี่ห้อไวเล็ต อื่นๆอีกมากมายด้วย
ในสมัยหลังจากนี้ มนุษย์เราอาจรู้จักดาวนพเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะมากขึ้นเรื่อยๆอย่างมากมายทีเดียว ufabet